แนะนำการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์สมชัย หลิมศิโรรัตน์ 3 มิถุนายน 2546 |
สวัสดีเปิดเทอมใหม่ครับหลายๆคนคงจะมีความสุขมากที่ได้กลับมาเจอเพื่อนๆ และโดยเฉพาะน้องใหม่ที่ได้มาพบเจอเพื่อนใหม่ และสิ่งใหม่ๆในชีวิต แน่นอนครับว่า เดี๋ยวนี้อะไรๆก็หนีไม่พ้นคอมพิวเตอร์ ก็คงจะได้เรียนและได้ใช้งานมันแน่นอน สำหรับคนที่คิดว่า เทอมนี้คงจะต้องซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่สักเครื่อง ซึ่งอาจจะจะเป็นเครื่องแรกในชีวิต (สำหรับน้องใหม่) พี่ก็ไม่อยากให้น้องต้องมานั่งเสียใจตอนหลังที่ซื้อแพงไป, ซื้อมาแล้วใช้ไม่คุ้ม, เสียบ่อยน่ารำคาญ ฯลฯ ก็อยากจะแนะนำการเลือกซื้อตามประสพการณ์เท่าที่พี่มีนะครับ ต้องขอออกตัวไว้ก่อนว่า พี่จะไม่แนะนำว่ารุ่นไหนดี แต่จะแนะหลักการตัดสินใจมากกว่า อันดับแรก คือ จะเอาไปทำอะไรอันนี้คนที่คิดจะซื้อคงรู้อยู่แล้วนะครับว่าจะเอาไปทำอะไร คงไม่ยากที่จะตัดสินใจ หรือถ้ายังไม่รู้ก็คงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะคอมพิวเตอร์เดี๋ยวนี้มันทำอะไรได้สาระพัด ดูหนัง ฟังเพลงก็ยังได้เลย แต่ก็คงต้องตั้งจุดประสงค์หลักๆไว้ตอบคำถามคนจ่ายเงินนะครับ ถ้ามันเข้าท่า เราก็คงได้งบไม่อั้น :P อันนี้พี่ไม่ได้พูดเล่นนะครับ จริงๆแล้วการตั้งจุดประสงค์ มันเป็นเหมือนการสัญญากับตัวเองด้วยว่า เราจะใช้มันให้คุ้มค่า อันดับสอง คือ งบประมาณครับอันนี้สำคัญที่สุด บางคนก็มีงบจำกัด แต่บางคนก็ไม่จำกัด ขึ้นอยู่กับฐานะ และจุดประสงค์ที่จะซื้อด้วย เพราะสำหรับคนที่ไม่ได้เรียนคอมพิวเตอร์แล้ว ก็คงไม่อยากซื้ออะไรที่มันแพงเกินความจำเป็น แต่สำหรับบางคนต้องการเครื่องแรงๆ ใช้ไปได้นานๆเลยไม่คิดจำกัดวงเงินไว้ แต่พี่อยากแนะนำว่า ควรจะจำกัดไว้นะครับ เพราะว่า ราคาคอมพิวเตอร์เดี๋ยวนี้แต่ละรุ่นมันห่างกันไม่เท่าไหร่ เราจะพบว่าถ้าอยากได้รุ่นนี้ แต่มีอีกรุ่นที่ดีกว่า เพิ่มอีกไม่เท่าไหร่ เราก็อาจจะเปลี่ยนใจขยับไปอีกรุ่น แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจอีกเมื่อมีอีกรุ่นที่ดีกว่า และเพิ่มเงินอีกแค่ 2-3พันบาท อะไรทำนองนี้ แล้วมันจะทำให้เราตัดสินใจไม่ได้ ดังนั้น ก่อนจะไปเลือกซื้อ ลองคิดดูก่อนนะครับว่า ในวงเงินเท่าไหร่ถึงจะยอมรับได้กับจุดประสงค์ที่จะเอามาใช้ พูดง่ายๆคือ เท่าไหร่ถึงจะคุ้ม อันนี้พี่ก็บอกวงเงินให้ไม่ได้หรอกนะครับ เพราะว่าบางคนก็คิดว่า การทำรายงาน, การบ้าน สำคัญมาก เท่าไหร่ก็ยอมจ่าย ได้เครื่องแรงๆมาทำรายงานได้เร็วๆ ก็พอใจ จ่ายแพงก็ยังคิดว่าคุ้ม แล้วอาจจะเสียดายถ้าไปซื้อแบบคอมพิวเตอร์เอื้ออาทรมาทำรายงานแล้วมันไม่ทันใจ แต่ยังไงพี่ก็อยากคิดให้ดูเป็นตัวอย่างสักหน่อยนะครับ เพราะบางคนก็ไม่เคยซื้ออะไรที่ราคาเป็นหมื่นมาก่อน สำหรับการใช้พิมพ์รายงาน, การบ้าน ดูหนังฟังเพลงนั้น งบน่าจะอยู่ในช่วง 15,000บาท-20,000บาท นะครับ (รวม Printer ด้วย) คิดง่ายๆว่า ถ้าเราใช้ไปสัก 3 ปี ก็ตกปีละ 5,000-6,667บาท หรือเดือนละ 416-556บาท คุ้มหรือเปล่ากับการที่เราจะได้ไม่ต้องไปตะลอนๆหาร้านเช่า, ยืมเพื่อน หรือ รอคิวใช้ที่ศูนย์คอมฯ เราจะใช้มันเมื่อไหร่ก็ได้ ดึกๆตื่นขึ้นมาใช้ก็ได้ หรือถ้าทำงานไม่ทัน ก็ใช้จนเช้าก็ยังได้ สำหรับพี่คิดว่า 2หมื่นก็คุ้มนะ ถ้าเราใช้ถนอมหน่อย อาจจะใช้ได้ถึง 4-5ปีด้วย สำหรับคนที่เรียนด้านคอมพิวเตอร์โดยตรง ต้องใช้ความสามารถของเครื่องมาก อาจจะต้องวางงบไว้สักประมาณ 4-50,000 บาทนะครับ เพราะควรจะได้รุ่นที่ดีที่สุดสำหรับการเรียนรู้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด อย่างเช่น ผู้ที่อยากจะเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Java อยากจะเขียนโปรแกรม 3D Animation อะไรทำนองนี้ คงจำเป็นต้องจ่ายแพงหน่อย ซึ่งถ้าใช้ไป 4ปี ก็ตกปีละ 10,000-12,500บาท หรือเดือนละ 833-1041บาท ที่พี่คิดอายุการใช้งานไว้ 4ปีก็เพราะว่า เครื่องระดับนี้จะตกรุ่นช้ากว่า และนักคอมพิวเตอร์ก็มักจะมีทางใช้มันจนสุดคุ้มมากกว่า แต่บางคนอาจจะอยากรู้อยากเห็นมาก แกะโน่นแกะนี่ก็มีโอกาสพังได้ง่ายๆเหมือนกัน :D อันดับ สาม คือ ร้านที่จะไปซื้อที่พี่ให้ความสำคัญกับข้อนี้ก็เพราะว่า หากมีปัญหา หรือเราต้องการอะไรเพิ่มเติมในภายหลัง จะทำได้สะดวกกว่า โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ได้เรียนด้านคอมพิวเตอร์โดยตรง จะไม่รู้ว่าควรจะไปหาอะไรที่ไหน หรือถ้ามีปัญหาก็อาจจะแก้ไขด้วยตัวเองได้ลำบาก ถ้าได้ร้านที่ไว้ใจได้ (เปิดมานาน) บริการดี อยู่ไม่ไกลนัก เราจะแวะเวียนไปถาม หรือไปซื้ออะไรเพิ่มเติมได้ไม่ยาก ถ้าเป็นร้านที่ไกลๆ เช่น ซื้อที่กรุงเทพฯ แล้วขนมาใช้ที่หาดใหญ่ อันนี้จะลำบากมาก ถ้ามีปัญหาเล็กๆน้อยๆจะโทรไปถามก็เสียค่าโทรแพง ถ้ามีปัญหามากๆต้องส่งเครื่องไป ก็อาจจะไม่คุ้มเลย สรุปง่ายๆว่า ถ้าไม่จำเป็น หรือได้ราคาถูกกว่ากันแค่ 1-2,000บาท ก็เลือกซื้อร้านไกล้ๆที่เราจะใช้งานดีกว่า (ต้องบริการดีด้วยนะครับ) อันดับ สี่ จะต้องซื้ออะไรบ้างโดยทั่วไปแล้ว สมัยนี้เราแทบจะไม่ต้องคิดอะไรมากเลย เพราะทางร้านมักจะทำเป็นเซ็ตไว้แนะนำอยู่แล้ว ถ้าไม่ได้มีความรู้คอมพิวเตอร์มากนัก พี่อยากแนะนำให้ซื้อแบบที่เขาเซ็ตไว้จะดีกว่า เพราะมันเป็นแบบที่เขาได้ทดสอบแล้วว่าอุปกรณ์แต่ละอย่างใช้งานร่วมกันได้ดี เราก็เลือก เซ็ตที่ตรงตามจุดประสงค์ และพอเหมาะกับงบประมาณ เช่น ถ้าต้องการใช้ทำรายงาน, การบ้าน ก็คงหนีไม่พ้นที่จะต้องมี Printer ถ้าต้องการดูหนังด้วย ก็คงต้องมี DVD-ROM หรือถ้าต้องการ copy ข้อมูลเก็บไว้ ก็ควรจะมี CD-RW ด้วย ที่อยากแนะนำคือ อยากซื้ออะไรควรจะซื้อให้ครบทั้งหมดในคราวเดียวเลยจะดีกว่า เพราะงบไม่บานปลาย และตัดปัญหาเรื่องความเข้ากันได้ของอุปกรณ์แต่ละชิ้นด้วย มีปัญหาก็อยู่ในประกันเหมือนๆกัน เราก็อาจจะเปลี่ยนทั้งเซ็ตได้ สบายใจกว่าครับ แต่สำหรับผู้ที่เรียนด้านคอมพิวเตอร์ ต้องขอยกเว้นไว้ครับ หากไปซื้ออะไรเพิ่มเติมทีหลังแล้วมีปัญหา ก็ต้องถือว่าเป็นการเรียนรู้ :P แต่สิ่งที่จำเป็นที่สุดและหลายคนมักมองข้ามไปคือ Memory ครับ ถ้ามีมากๆก็จะช่วยให้เราใช้งานได้ราบรื่น และรวดเร็วขึ้นมาก และสามารถรองรับโปรแกรมรุ่นใหม่ๆที่จะมีต่อไปในอนาคตได้อีกนาน ถ้ามีงบเหลือ อย่างแรกที่อยากให้พิจารณาเพิ่มก็คือ Memory ครับ (อย่างน้อยถ้าใช้งาน WindowsXP ควรจะมีไม่ต่ำกว่า 256MB) ส่วน Harddisk นั้น เดี๋ยวนี้มันมีเหลือเฟือแล้วล่ะครับ ยกเว้นว่าเราจะลงโปรแกรมหลายตัว และ copy เพลง, หนัง เอาไว้ด้วย อันดับสุดท้าย เทคโนโลยีใหม่ๆสำหรับผู้ที่คิดว่าซื้อแล้วอยากให้รองรับเทคโนโลยีใหม่ๆที่จะออกมาในอนาคตนั้น พี่ขอแนะนำ เฉพาะตัวที่น่าจับตานะครับ 1. LAN
2. USB 2.0 port
3. DVD-RW drive
4. Flash disk
เทคโนโลยีใหม่ๆยังมีอีกเยอะครับ และเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ขอเพียงแต่เราใช้มันให้คุ้มค่า เรียนรู้และศึกษามันให้ลึกซึ้ง แล้วสร้างเทคโนโลยีของเราเอง เราก็จะไม่ถูกเรียกว่าเป็นทาสเทคโนโลยี แล้วสักวันหนึ่ง ประเทศไทยก็คงจะไม่เสียดุลการค้ามากเท่าทุกวันนี้ สุดท้ายนี้ก็ขอให้ได้คอมพิวเตอร์ที่คุ้มค่ากับสิ่งที่ต้องการนะครับ |
since September
2002 Copyright © 2002-2004 Somchai LIMSIRORATANA. All rights reserved. |